ทีมชาติ | P | W | D | L | F | A | +/- | Pts | |
อังกฤษ | 3 | 2 | 1 | 0 | 9 | 2 | +7 | 7 | |
สหรัฐฯ | 3 | 1 | 2 | 0 | 2 | 1 | +1 | 5 | |
อิหร่าน | 3 | 1 | 0 | 2 | 4 | 7 | -3 | 3 | |
เวลส์ | 3 | 0 | 1 | 2 | 1 | 6 | -5 | 1 | |
เวลส์ เวย์น เฮนเนสซี่ย์ นายทวารมือหนึ่ง ติดโทษแบน เนื่องจากโดนใบแดงโดยตรงจากนัดที่แพ้ อิหร่าน ส่วนแข้งรายอื่นๆ อย่าง แกเร็ธ เบล, แดน เจมส์ และ อารอน เเรมซี่ย์ พร้อมช่วยที
อังกฤษ พวกเขาต้องเช็กความพร้อมของ เจมส์ แมดดิสัน ที่ยังไม่ได้ลงเล่นเลยสักเกมเดียว รายของ ฟิล โฟเด้น มีโอกาสสตาร์ทตัวจริง ส่วน แฮร์รี่ เคน และ ซาก้า พร้อมช่วยทีม
เวลส์ เวลส์ (3-4-3) : แดนนี่ วอร์ด - โจ โรดอน, คริส เมแฟม, เบน เดวิส - คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์, อารอน แรมซี่ย์, อีธาน แอมปาดู, นีโก วิลเลี่ยมส์ - แกเร็ธ เบล, คีฟเฟอร์ มัวร์, แดเนียล เจมส์
อังกฤษ อังกฤษ (4-2-3-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด - คีแรน ทริปเปียร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ดีแคลน ไรซ์ - บูคาโย่ ซาก้า, เมสัน เมาท์, ราฮีม สเตอร์ลิง - แฮร์รี่ เคน
อังกฤษ เสมอก็เพียงพอต่อการเข้ารอบน็อคเอาท์ ขณะที่ เวลส์ จำเป็นต้องชนะ อังกฤษ ให้ได้สถานการณ์เดียว เท่านั้นไม่พอ พวกเขาต้องยิงให้ได้เยอะๆ และไปลุ้นให้คู่ อิหร่าน กับ ยูเอสเอ เสมอกัน เพื่อที่พวกเขาจะมีประตูได้เสียที่ดีกว่า อิหร่าน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า อังกฤษ จะปิดจ๊อบนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มด้วยการคว้าชัย
อังกฤษ ชนะ 2-1